ฟิค [Hiccstrid] 2 Years Later (One Shot)
Two
Years Later.
::
Hiccup x Astrid ::
(One Shot)
(One Shot)
เป็นเวลาเกือบสองปีที่ชาวเบิร์คย้ายมาแผ่นดินใหม่ และที่นี่...ปราศจากมังกร
สองปีก่อนมังกรนับร้อยบินกลับโลกลับแลตามจ่าฝูงของมันไป เบิร์คเองเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ พวกเขาต้องกลับไปใช้วิถีชีวิตดั่งเดิมแบบที่ชาวไวกิ้งควรเป็น และเมื่อเวลาผ่านไป ชาวเบิร์คก็ชินกับมัน
เมื่อแสงอาทิตย์เริ่มสาดส่องไวกิ้งส่วนหนึ่งเริ่มลุกขึ้นมาทำหน้าที่ของตนอย่างขยันขันแข็ง แต่ก็ยังไวกิ้งบางคนที่แม้ไม่มีหน้าที่อะไรก็ยังตื่นแต่เช้าเป็นเรื่องปกติเพื่อออกกำลังกาย
ไวกิ้งสาวผมบลอนด์ ผู้มีศักดิ์เป็นนายหญิงของเบิร์คแห่งนี้ค่อย ๆ พยุงตัวเองจากเตียง พยายามเบาเสียงที่สุดเพื่อไม่ให้คนที่นอนข้าง ๆ ตื่น แอสทริดลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวออกไปทำกิจวัติประจำวันของเธอโดยไม่ลืมที่จะจุมพิตเบา ๆ ที่แก้มของคนที่ยังหลับ ก่อนจะคว้าเอาขวานด้ามโปรดแล้วเดินออกไป
แอสทริดมักเริ่มวันใหม่ด้วยการผ่าฟืน ฝึกปาขวาน หรือแม้แต่จับคู่ต่อสู้กับฮิคคัพ ผู้เป็นหัวหน้าของชาวเบิร์ค (แม้เธอจะรำคาญนิดหน่อย ที่เขามักจะอ่อนให้เธอเสมอ แต่แอสทริดก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นั่นเป็นมุมที่น่ารักของฮิคคัพ)
แต่...วันนี้ต่างออกไป
นายหญิงแห่งเบิร์คเดินถือขวานคู่ใจไปอีกด้านหลังของเกาะ วันนี้เธอไม่อยากฝ่าฝืน ไม่อยากปาขวาน หรือแม้แต่สู้กับ ฮิคคัพ แอสทริดรู้สึกเหนื่อยเกินกว่าจะทำอะไรแบบนั้น เธอแค่อยากอยู่ในที่ ๆ เธอจะสามารถหายใจได้สะดวก
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจสองหรือสามอาทิตย์ได้ แอสทริดรู้สึกว่าในหมู่บ้านนั้นอึดอัด หายใจไม่สะดวกทั้งที่ตอนมีมังกรบนเกาะมันแออัดกว่านี้เธอก็ยังอยู่ได้สบาย ๆ ยิ่งไปกว่านั้น สองอาทิตย์มานี้ แอสทริดมักมีอาการเวียนหัวในตอนเช้า แล้วสาย ๆ พอสูดอากาศซักหน่อย อาการเวียนหัวก็หายไปเอง แน่นอนว่าแอสทริด ไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้ฮิคคัพรู้
แอสทริดนั่งหย่อนขารับลมอยู่ที่ริมผา เธอสังเกตเห็นบางสิ่งคล้ายนกยักษ์กำลังตรงมาทางเกาะ เมื่อเพ่งดู ดี ๆ เธอพบว่านั่นไม่ใช่นก
มันคือมังกร!!
ด้วยสัญชาตญาณนักรบ แอสทริดหยิบขวานที่วางข้างตัวขึ้นมาก่อนจะลุกขึ้นด้วยความรวดเร็ว แต่ไม่รู้เพราะอาการป่วยหรือเพราะเธอลุกเร็วเกินไป ภาพตรงหน้าของเธอก็ดับลงเสียดื้อ ๆ
แอสทริดเป็นลม
แต่นั่นไม่แย่เท่าการที่เธอผลัดตกจากริมผา !!
เธอรู้ตัวดีว่าตัวเองตกลงมาแล้ว แม้สติของเธอจะไม่เต็มร้อย แอสทริดรู้ว่าตอนนี้ตัวเธอกำลังดิ่งลงทะเลและด้วยความสูงระดับนี้ เธอไม่รอดแน่ แต่แอสทริดไม่มีแรงกระทั้งจะส่งเสียงร้องหรือขอพรต่อโอดิน
“เกือบไปแล้ว!” เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับร่างของแอสทริดที่ถูกหยุดกลางอากาศอย่างฉิวเฉียว ก่อนร่างของเธอจะลอยขึ้นอย่างช้า ๆ ...แอสทริดมั่นใจว่าตนลืมตาอยู่ แต่ตอนนี้ภาพมันมัวไปหมด
“แอสทริด! เจ้าเป็นอะไรมั๊ย!!” เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง แอสทริดรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองนั่งอยู่กับพื้นดิน และเสียงนั่นเป็นเสียงที่เธอคิดว่าเธอรู้จัก เจ้าของเสียงหวานเรียกชื่อเธออีกครั้งก่อนจะเขย่าตัวเธอเบา ๆ เพื่อให้ได้สติ ภาพตรงหน้าเริ่มชัดขึ้นแล้ว
เฮเธอร์กับหวดคมมีดอยู่ที่นี่...แอสทริดคิด
“เฮเธอร์” แอสทริดพูดเสียงเบา เธอกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อไล่ให้ความมือมัวหายไป ก่อนจะยันตัวเองลุกจากแขนของเฮเธอร์ “เจ้ามานี่ได้ไง”
“ข้ามาอยู่นี่ได้ไงหรอ? ข้าสิต้องถามเจ้า!” เฮเธอร์โวยก่อนจะส่งน้ำจากกระบอกให้เพื่อนรัก “ข้าขี่หวดคมมีดบินไปทั่วเพื่อตามหาชาวเบิร์ค กำลังคิดว่าจะพักสักหน่อยก็เห็นคนโดดหน้าผาลงมา พอมาช่วยถึงรู้ว่าเป็นเจ้า”
แอสทริดอยากพูดขอบคุณ แต่ไม่รู้ด้วยสาเหตุอะไร เธอรู้สึกซาบซึ้งที่เฮเธอร์มาช่วยเอาไว้ น้ำตาของนายหญิงแห่งเบิร์คที่ไม่ค่อยมีให้เห็นเอ่อล้นที่ตาสีฟ้าทั้งสองข้าง รู้ตัวอีกทีเธอก็โผเข้ากอดเบอเซอเกอร์สาวเข้าเต็มรัก
“เออ...เจ้า โอเคมั๊ย?” เฮเธอร์ถาม เธอค่อนข้างประหลาดใจกับท่าทีของเพื่อนรักที่ไม่ได้เจอกันนานอย่าง แอสทริด “คนอื่น ๆ ไปไหนหมด?”
“โอ้! ข้าไม่เป็นไรเฮเธอร์ ข้าดีใจที่เจอเจ้า!” แอสทริดพูดเสียงร่าก่อนจะยันตัวเองลุกจากพื้น ดูเหมือนอาการป่วยของเธอจะหายแล้ว เธอยืนมือไปดึงให้เฮเธอร์ลุกขึ้นมาด้วย “มากับข้าสิ”
..........................................................................
เฮเธอร์กำลังคิดว่าแอสทริดท่าทางแปลก ๆ ...
แอสทริดจูงมือเธอ เดินฮัมเพลงด้วยท่าทางร่าเริง ซึ่ง...เฮเธอร์คิดว่าเธอไม่เคยเห็นแอสทริดเป็นแบบนี้มาก่อน พวกเธอเจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อราว ๆ สามปีก่อน ในงานแต่งของพี่ชายเธอ แต่เธอไม่คิดสามปีจะทำให้เพื่อนรักเปลี่ยนไปขนาดนี้
“เจ้า..แบบว่า โอเคจริง ๆ นะ” เฮเธอร์ถามอีกครั้ง น้ำเสียงเธอแสดงความกังวลอย่างไม่ปกปิด
“ถ้าเจ้าหมายถึงที่ข้าเป็นลม ตอนนี้ข้าสบายดี” แอสทริดตอบเสียงร่าเริง
“ข้าไม่อยากจะเชื่อ เจ้าเนี่ยนะเป็นลม!”
“อย่าว่าแต่เจ้าเลย ข้ายังไม่อยากเชื่อตัวเอง ข้าตื่นมาตอนเช้า เวียนหัว หน้ามืด แล้วก็มีวูบไปบ้างบางครั้งมาเกือบเดือน”
“เจ้าปล่อยให้ตัวเอง...”
“ถึงแล้ว!!” เฮเธอร์พูดไม่ทันจบ แอสทริดก็พูดแทรกขึ้นก่อนจะกระซิบกับเธอ “อย่าบอกฮิคคัพว่าข้าเป็นลม”
เบอเซอเกอร์สาวพบว่าตอนนี้ตนกำลังอยู่ในหมู่บ้าน
“แอสทริด!” เฮเธอร์มองไปทางตนเสียง ชายผมสีน้ำตาลเดินตรงมาทางพวกเธอท่าทางร้อนรน และถึงท่าทางจะเปลี่ยนไปนิดหน่อย แต่เธอจำเขาได้
“เจ้าหายไปไหนมา! คนบนเกาะบอกข้าว่าได้ยินเสียง...มังกร...” หัวหน้าแห่งเบิร์คโวยก่อนจะเบาเสียงลงเมื่อเหลือบไปเห็นสาวผมดำที่เขารู้จักยืนอยู่หลังแอสทริด “เฮเธอร์หรอ!?”
“งั้นเจ้าลองทายซิว่ามังกรตัวไหน?” แอสทริดพูดเสียงร่า ก่อนจะเดินไปข้างหลังเฮเธอร์แล้วดันเธอมาข้างหน้า “เรามีแขกนะ”
ณ ที่ประชุมกลาง ที่สำหรับรวมพลและใช้ประชุมเรื่องสำคัญ อดีตนักขี่มังกรรวมตัวกันอย่างพร้อมหน้า เมื่อมีคนไปแจ้งพวกเขาที่กำลังทำภารกิจของตนเกี่ยวกับเรื่องแขกที่มาเยือน ฟิชเลกที่กำลังสอนเด็ก ๆ เกี่ยวกับเรื่องสมุนไพรยุติการสอนและตรงมาที่ที่ประชุมทันที เช่นเดียวกันสน็อทเลาท์ เขาทิ้งการจัดการกับหมูป่าเพื่อมาที่นี่ คงมีแต่คู่แฝดที่ไม่ตื่นเต้นกับแขกที่มาเยือน พวกเขาเพียงสงสัยว่า ‘ทำไมหัวหน้าพวกเขาถึงเรียกรวมพลเพราะเหตุผลที่ว่ามีแขกมา?’
“ไม่อยากเชื่อเลย! พวกเจ้าย้ายออกจากเบิร์ค!” เฮเธอร์พูดอย่างประหลาดใจ ก่อนจะเปลี่ยนน้ำเสียงเมื่อหันไปมองหัวหน้าและนายหญิงแห่งเบิร์ค เธอยิ้มให้ทั้งคู่ “และอาจช้าไปหน่อยแต่...ข้ายินดีกับพวกเจ้าด้วย”
“ขอบคุณเฮเธอร์” ฮิคคัพพูด “แต่ เจ้าหาเราเจอได้ไง ข้าหมายถึง เราออกมาโดยไม่ได้ทิ้งอะไรไว้บอกใบ้เลยว่าเราอยู่ไหน”
“เขาพาเราออกมาทั้งที่ไม่รู้จะไปที่ไหนด้วยซ้ำ” แอสทริดกระซิบอย่างขบขัน ฮิคคัพเหล่มองคนที่นั่งข้าง ๆ ก่อนจะพูดอย่างอ่อนใจ “ขอบใจแอสทริด”
“พวกเจ้าน่ารักกันจัง” เฮเธอร์ยิ้ม “คือ...ก่อนหน้านี้เราส่งเจ้าจิ๋วจี๊ดไปที่เบิร์ค เพื่อเชิญพวกเจ้ามาร่วมงานวันเกิดซิฟ ข้าหมายถึงลูกสาวของดาร์เกอร์ แต่...เราไม่ได้จดหมายตอบกลับ แถมวันงานพวกเจ้าก็ไม่มา พวกข้าเลยไปที่เบิร์คแต่ก็ไม่เจอใครเลย”
“เจ้าเลยออกตามหาพวกเรา?” ฟิชเลกพูดตาเป็นประกาย
“ไม่ใช่แค่ข้า พี่ข้าให้กองกำลังทั้งเบอเซอเกอร์ ทั้งผู้ปกป้องปีกตามหาพวกเจ้า” เฮเธอร์เว้นจังหวะ “พวกเราเป็นห่วงพวกเจ้ามากนะ”
“โถ่ เฮเธอร์ ข้าประทับใจจัง” แอสทริดพูดเสียงสั่นพร้อมเช็ดน้ำตาที่เอ่อออกมาก ก่อนจะหันหน้าไปซุกที่แขนของฮิคคัพเพื่อซับน้ำตา “ข้าเปล่าร้องไห้”
ท่าทีของแอสทริดทำให้ทุกคนงุนงง โดยเฉพาะฮิคคัพที่นั่งข้าง ๆ พวกเขาไม่เคยเห็นเธอเป็นแบบนี้มาก่อน สน็อทเลาท์ส่งสายตาไปทางฮิคคัพราวกับจะถามว่า ‘นางเป็นอะไร’ ฮิคคัพส่ายหน้าก่อนจะยกแขนขึ้นโอบแอสทริด
“เจ้า...จะไม่ทำอะไร หรือพูดอะไรหน่อยหรอ” เป็นทัฟนัทที่พูดขึ้นทำลายความเงียบ
“เอ่อ..” ฮิคคัพอ้ำอึ่ง
“ข้าไม่เห็นพวกมังกรเลย!” เฮเธอร์เห็นท่าไม่ดีจึงพูดแทรกขึ้น ฮิคคัพพยักหน้าให้เธอเชิงขอบคุณ“พวกเขี้ยวกุดกับมังกรตัวอื่น ๆ...” เฮเธอร์คิดว่าการเปลี่ยนเรื่องทุกอย่างจะดีขึ้น
“พวกมังกรหรอ?” แอสทริดผละออกจากคนรัก
“ฮิคคัพให้เขี้ยวกุดพาพวกมังกรกลับโลกลับแลไปหมดแล้ว” ฟิชเลกอธิบาย “มังกรทุกตัวที่เบิร์ค”
“พายุหนามด้วย...” แอสทริดเสียงเศร้า คราวนี้เธอปล่อยน้ำตาไหลออกจากดวงตาสีฟ้าทั้งสองข้างอย่างไม่ปิดบัง ดูเหมือนเฮเธอร์จะคิดผิดที่เปลี่ยนเรื่อง อดีตนักขี่มังกรมองหน้ากันอย่างเลิ่กลั่กเมื่อแอสทริดปล่อยโฮออกมา
“ไม่นะ...นางร้องไห้” รัฟนัทพูดเสียงแผ่ว ไม่บ่อยนักที่เธอจะทำตัวไม่ถูก
“นางร้องไห้เพราะคิดถึงมังกรของนาง...” ทัฟนัทเริ่มเบะปาก ก่อนจะปล่อยโฮออกมาอีกคน “ส่วนข้า ก็คิดถึงมังกรของข้า”
“พวกเจ้าเลิกทำตัวบ้า ๆ แบบนี้ทีเถอะ ข้าขอล่ะ!!” สน็อทเลาท์โวยขึ้น ทัฟกลั้นเสียงสะอื้นแต่ยังเบะปากอยู่ แอสทริดหยุดร้องก่อนหันไปทางเขาอย่างเกรี้ยวกราด เธอลุกขึ้นแล้วก่อนตรงไปกระชากคอเสื้อของสน็อทเลาท์ “โอ...ข้าขอโท..”
“เจ้าขึ้นเสียงใส่ข้างั้นหรอ!” แอสทริดตะคอก
“จะ ใจเย็นแอสทริด” ฮิคคัพปรามอย่างเกร็ง ๆ เขาแตะไหล่เธอเบา ๆ หวังให้เธอเย็นลง
“ใจเย็นหรอ!” เหมือนเขาจะคิดผิด เมื่อแอสทริดหันควับมาทางเขา ฮิคคัพถอยหลังตามสัญชาตญาณ “เจ้าบอกให้ข้าใจเย็น ทั้งที่เจ้า! เป็นคนบอกให้เขี้ยวกุดพามังกรไปจากเกาะ! เจ้าให้มังกรทุกตัวกลับโลกลับแลเพื่อปกป้องมังกรที่เจ้าเลี้ยงไว้!!” เธอพูดทั้งน้ำตา
ฮิคคัพยืนนิ่ง เขาไม่รู้จะทำตัวยังไงในสถานการณ์แบบนี้ เขาไม่เคยเห็นคนรักเป็นแบบนี้มาก่อน ถึงจะเจ้าอารมณ์ไปหน่อยแต่เธอมีเหตุผลกว่านี้ แต่นี่อะไร ห้านาทีก่อนยังซบเขาและร้องไห้อยู่เลย ตอนนี้มายืนตะคอกเขาเนี่ยนะ สถานการณ์เกินควบคุมแล้ว เขาคิดได้แค่นั้น
“นางเป็นอะไร” สน็อทเลาท์เดินไปกระซิบกับเฮเธอร์ ฟิลเลกเดินตามมา
“ข้าไม่รู้” เธอกระซิบกลับ “แต่ข้าคิดว่าเคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน...”
แอสทริดผลักฮิคคัพเต็มแรงก่อนจะวิ่งออกไปจากที่ประชุม ทัฟนัทเริ่มร้องไห้อีกครั้งและวิ่งตามเธอไป รัฟนัทส่ายหัวอย่างปลง ๆ กับพี่ชายของเธอ ก่อนจะหันไปทางฮิคคัพ “ข้าไปดูเอง”
..........................................................................
นายหญิงแห่งเบิร์คเดินปึ่งปังกลับมาที่บ้านของตน แอสทริดเปิดแล้วปิดประตูอย่างแรงด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะทำงานของฮิคคัพเพื่อสงบสติอารมณ์
“ข้า...เป็นอะไรไปเนี่ย” แอสทริดพึมพำอย่างหน่ายใจกับอาการของตนเอง
แอสทริดไม่รู้ว่าตนเองเป็นอะไร เธอไม่ได้ตั้งใจจะขึ้นเสียงใส่ฮิคคัพหรือแม้แต่กับสน็อทเลาท์ แม้เธอจะยอมรับว่าฉุนขึ้นมานิดหน่อยแต่สาบานได้เธอไม่ได้โมโหขนาดนั้น เธอยอมรับว่าคิดถึงเจ้าพายุหนามแต่ก็ไม่ได้มากขนาดจะร้องไห้ ทำไมเธอถึงควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลย ทำไมกัน?
‘ข้าควรไปขอโทษ..’
แอสทริดคิด เธอยกสองมือมาตบหน้าตัวเองเบา ๆ เพื่อเรียกสติ แต่ก่อนที่จะลุกขึ้นยืน สายตาเธอเหลือไปเห็นบางอย่างที่เหมือนว่าจะถูกปกปิดให้อย่างตั้งใจบนโต๊ะของคนรัก มันถูกปิดไว้ด้วยกระดาษเปล่าที่เหมือนว่างไว้อย่างลวก ๆ แต่เธอรู้...เขาตั้งใจซ่อนมัน
มือเรียวหยิบกระดาษที่ดูเหมือนวางไว้อย่างลวก ๆ ออก สิ่งที่กระดาษเปล่าเหล่านั้นวางทับอยู่คือแผนที่สองแผ่นที่วางซ้อนกันอยู่ แอสทริดพบว่าหนึ่งในนั้นคือแผนที่เก่าที่ฮิคคัพทำไว้ตอนที่เบิร์คเก่า ส่วนอีกอัน...น่าจะเป็นแผนที่ใหม่ แอสทริดคิดแบบนั้นเพราะมันระบุตำแหน่งของเบิร์คใหม่นี้เป็นจุดศูนย์กลาง รอบ ๆ เป็นเกาะเล็กเกาะน้อย เธอคิดว่าเขาคงจดไว้ตอนออกเรือไปหาปลา
แอสทริดอมยิ้มเล็กให้กับสิ่งที่พบก่อนจะนั่งลงอีกครั้ง เธอไล่ดูเกาะเล็กเกาะน้อยต่าง ๆ บางเกาะเธอเคยไปตอนที่ออกเรือไปกับเขา ก่อนจะสังเกตว่าความถี่ ๆ เจอเกาะนั้นห่างจากเบิร์คไปเรื่อย ๆ และมัน...ตรงไปยังโลกลับแล
‘ให้ตายเถอะธอร์’ แอสทริดอุทาน ความคิดและความวิตกกังวลมากมายเกิดขึ้นในหัว ฮิคคัพจะไปโลกลับแลงั้นหรอ เขาเขียนแผนที่นี่โดยไม่บอก มันชัดเจนเลยว่าเขาจะหนีไป ! เหมือนเมื่อก่อน เหมือนทุกครั้งที่เขาไม่สบายใจ เขามักจะขี่มังกรของเขาหนีไป แล้วเขาไม่สบายใจเรื่องอะไรล่ะ เพราะเธอหรือเปล่า ต้องใช่แน่ ๆ ช่วงนี้เธองี่เง่า เธอ ขี้หงุดหงิด แถมยังขี้โมโหอีก โอ...ไม่นะ ฮิคคัพจะหนีเธอไปงั้นหรอ
น้ำตาที่แห้งไปแล้วรื้อขึ้นมาอีกครั้งเพราะความน้อยใจ นายหญิงแห่งเบิร์คซุกหน้าลงกับโต๊ะทำงาน ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา เธอร้องไห้เงียบ ๆ ก่อนจะผล็อยหลับไป
..........................................................................
“เจ้าว่าอะไร!” หัวหน้าหนุ่มแห่งเบิร์คร้องขึ้นด้วยสีหน้าประหลาดใจแต่ทุกคนตรงนั้นรู้ เขากำลังดีใจมากกว่า “แอสทริดกำลังท้อง!!”
“ก็ไม่ชัวร์ แต่...” เฮเธอร์เว้นจังหวะ “อาการนางเหมือนตอนพี่สะใภ้ข้ารอบเดือนขาดไปเดือนแรก ข้าหมายถึง...ตอนนางท้องน่ะ”
“จริงหรอเนี่ย! นี่ข้ากำลังจะเป็นพ่อแล้วหรอ!!” เขาพูดอย่างตื่นเต้น
“มีใครเคยบอกเจ้ามั๊ยฮิคคัพ เวลาเจ้าตื่นเต้น เจ้าเหมือนดาร์เกอร์เลย” เฮเธอร์แซว “อ่อ ข้าลืมไป เจ้ามันน้องรักเขานี่”
“อะไร! ข้าก็เป็นของข้าแบบนี้” ฮิคคัพตอบอย่างอารมณ์ดี เฮเธอร์กับฟิชเลกมองหัวหน้าแห่งเบิร์คพลางยิ้มอย่างยินดี มีเพียงสน็อทเลาท์ที่ทำหน้าเซ็งกับท่าทางของฮิคคัพ ‘เหมือนดาร์เกอร์มันน่ายินดีตรงไหน’ สน็อทเลาท์คิด
“ฮิคคัพ ข้าว่านางยังไม่รู้ว่าตัวเองท้อง” ฟิชเลกพูดก่อนจะเดินไปตบบ่าเพื่อนสนิท
“ฟิชเลกพูดถูก” เฮเธอร์เสริม “เจ้าควรไปบอกนางนะ”
“ข้าหรอ?” ฮิคคัพเริ่มกังวล เขาอึกอัก “ไม่รู้สิ ถ้านางไม่ท้องแล้วข้าไปพูดแบบนั้น แอสทริดจะไม่ฆ่าข้าหรือไร”
“แล้วอยู่ ๆ เจ้ามาปอดแหกอะไรเนี่ยฮิคคัพ!! เมื่อกี้เจ้ายังดีใจกระโดดโหย่ง ๆ อยู่เลย!” สน็อทเลาท์ที่ยืนกอดอกโวยขึ้น ฮิคคัพมองเขาอย่างเคือง ๆ เขาเห็นแต่ไม่แคร์ “ข้าพูดจริง!”
“ไม่บ่อยนักที่ข้าจะพูดงี้แต่...ถูกของสน็อทเลาท์” เบอเซอเกอร์สาวเดินไปตบบ่าฮิคคัพเบา ๆ เป็นการปลอบ “ฟังนะฮิคคัพ แอสทริดไม่รู้ว่าตัวเองท้อง นางไม่ระวังตัว อย่างเมื่อเช้านางก็เป็นลม...”
“แอสทริดเป็นลม! เจ้าว่านางเป็นลมหรอ!?” ฮิคคัพถามอย่างตระหนก เฮเธอร์เม้มปากเมื่อนึกขึ้นไปว่าตนพูดมากไปแล้ว “เฮเธอร์ ทำไมเจ้าไม่บอกข้า ถ้าแอสทริด...”
“แอสทริดไม่เป็นไร” เธอพูดตัดบทเมื่อเห็นท่าทางของเขา ฮิคคัพควรรู้แค่นี้ เฮเธอร์คิดว่าถ้าเขารู้เรื่องแอสทริดตกหน้าผาเขาต้องล้อมคอกทั้งเกาะแน่ เธอไม่อยากให้เป็นงั้น “เจ้าใจเย็นแล้วฟังข้านะ”
ฮิคคัพพยักหน้า
“เจ้าต้องไปบอกนาง” เฮเธอร์พูดอย่างใจเย็น “อีกอย่างถ้านางไม่ท้องก็ไม่มีอะไรเสียนี่”
“โอเค” เขารับปาก
หัวหน้าหนุ่มแห่งเบิร์คเดินตามหาภรรยาของตนอย่างวิตกกังวล เขาเดินหาทั่วทั้งเกาะแต่ไม่เจอเธอ คงเหลือที่สุดท้ายที่เขายังไม่ได้ไปหา...ที่บ้านของพวกเขา
ฮิคคัพสูดหายใจเพื่อรวมรวบความกล้าก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในบ้านของตน
ภายในบ้านเงียบกริบราวกับไม่มีคนอยู่ ฮิคคัพเดินเข้าในบ้าน ตรงไปทางห้องนอนและเขาคิดถูก แอสทริดฟุบหลับที่โต๊ะทำงานของเขา ฮิคคัพเดินไปทางแอสทริด ก่อนจะนั่งคุกเข่าลงข้าง ๆ เธอ
“แอสทริด” ฮิคคัพเรียก แตะที่ไหล่คนรักพร้อมเขย่าเบา ๆ เพื่อปลุกให้เธอตื่น
“ฮิคคัพ..” แอสทริดงัวเงีย ยกมือขยี้ตาเบา ๆ ก่อนเบิกตากว้างเมื่อพบว่าคนรักของเธอนั่งอยู่ตรงหน้าเธอ แอสทริดโผกอดฮิคคัพอย่างแรงจนเขาเซไปนิดหน่อย “ฮิคคัพ! เจ้าจริง ๆ หรอเนี่ย!”
“เจ้าโอเคนะ” ฮิคคัพถามพลางกอดเธอตอบ เขารับรู้ว่าแอสทริดพยักหน้าก่อนพวกเขาจะผละออกจากกัน ฮิคคัพเปลี่ยนมานั่งยอง ๆ เขารวบมือของคนรักไว้ที่ตักของเธอ “เจ้า...หายโกรธข้าหรือยัง?”
แอสทริดส่ายหัว “ข้าไม่เคยโกรธเจ้า...” เธอตอบเสียงเบา ฮิคคัพยิ้มให้กับคำตอบนั้น
“ข้ารู้...แม่นางน้อย” เขาพูดอย่างอ่อนโยน
“ฮิคคัพ...ข้ารู้ข้าอาจขี้โมโห แล้วช่วงนี้ก็งี่เง่ามาก ๆ ข้าก็ไม่รู้ข้าเป็นอะไรแต่...” แอสทริดพูด น้ำตาเริ่มเอ่อขึ้นมาอีกครั้ง “เจ้าอย่าหนีข้าไปไหนนะ”
“เจ้าพูดเรื่องอะไรเนี่ย” เขาขมวดคิ้ว ก่อนจะยกมือข้างหนึ่งขึ้นเช็ดน้ำตาให้แอสทริดอย่างแผ่วเบา
“ข้าเห็นแผนที่ที่เจ้าทำ...มันนำทางไปโลกลับแล” เธอเสียงสั่น ฮิคคัพยิ้มกับท่าทางของคนรัก “เจ้ายิ้มอะไร?”
“แอสทริด ฟังข้านะ” เขากุมมือเธอเบา “ข้อแรก ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นอะไร ที่ช่วงนี้เจ้า...แบบว่าขี้โมโหหน่อย ๆ อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ อะไรแบบนี้เพราะ...”
“เพราะอะไร” แอสทริดถามเมื่ออยู่ ๆ ฮิคคัพก็หยุดพูดไป “ข้าเป็นอะไรฮิคคัพ”
ฮิคคัพสูดหายใจเข้าเต็มปอด เขาสบตาเธอและพูดเสียงจริงจัง “เจ้า...กำลังท้อง”
“ข้า...ท้อง” แอสทริดพึมพำ ไม่นานเธอเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อคิดได้ว่าเขากำลังหมายถึงอะไร “เดี๋ยวนะ ข้าท้อง! ละ แล้วเจ้ารู้ได้ยังไง!?”
ฮิคคัพหัวเราะเบากับท่าทางของคนรัก
“ไม่มีอะไรที่เกิดขึ้นบนเกาะนี่โดยที่ไม่ถึงหูข้าหรอกนะ” เขาสบตาเธอ “และข้อสอง ข้าขอโทษที่แอบทำแผนที่โดยไม่ได้บอกเจ้า ยอมรับเลยว่ากำลังมีแผนจะไปเที่ยวเล่นโลกลับแล”
“เจ้าก็จะหนีไปจริง ๆ” แอสทริดก้มหน้าพร้อมพูดเสียงเศร้า
“ก็...ไม่ได้บอกว่าจะไปคนเดียว” ฮิคคัพยืนขึ้นเต็มความสูง เก็บกระดาษบนโต๊ะให้เข้าที่ จัดวางอย่างเป็นระเบียบก่อนจะเก็บแผนที่ที่กางบนโต๊ะพับรวมกันแล้ววางทับด้วยที่ตลับหมึก แอสทริดมองเขาอย่างงุนงง “ข้ากะทำแผนที่ให้เสร็จ แล้วชวนเจ้าไปด้วย”
แอสทริดลุกพรวดจากเก้าอี้ เธอกระโดดกอดด้านหลังของฮิคคัพอย่างดีใจ แอสทริดซุกหน้ากับหลังของเขา ฮิคคัพอมยิ้มก่อนจะหันมาหาเธอ เขาเห็นแอสทริดยิ้มกว้างเพราะความดีใจ
“อย่าเพิ่งดีใจไปคุณผู้หญิง เพราะตอนนี้ ข้าเปลี่ยนใจแล้ว” ฮิคคัพพูดทั้งรอยยิ้ม ในขณะแอสทริดตีหน้าเศร้าอีกรอบ เขายกมือมาแตะแก้มเธอ “อย่าทำหน้าแบบนั้น”
“เจ้าจะไม่ให้ข้าไปด้วย” แอสทริดเสียงแข็ง
“เปล่า” เขาส่ายหน้า “ไม่ได้พูดแบบนั้น ข้าแค่จะพับโครงการไว้ก่อน”
“ทำไม”
“แอสทริด ข้าจะปล่อยให้ภรรยาที่กำลังท้องล่องเรือไปในทะเลเนี่ยนะ ไม่-มี-ทาง” ฮิคคัพย้ำสามคำสุดท้ายเสียงหนักแน่น แอสทริดหัวเราะเบา ๆ ก่อนเขาจะดึงเธอเขาสู่อ้อมกอด “อย่างน้อย ๆ ก็ให้ลูกเราโต...อีกซักห้าหกปี ค่อยไปก็ได้”
“เจ้ารอขนาดนั้นได้หรอ” แอสทริดพูดอย่างขบขัน
“เพื่อเจ้าแม่นางน้อย” ฮิคคัพพูด เขาก้มลงจูบเบา ๆ ที่หน้าผากของเธอ ก่อนจะเลื่อนมือลงมาลูบที่หน้าท้องของแอสทริด “เพื่อลูกของเราด้วย”
..........................................................................
เป็นเวลาเกือบสองปี ที่ชาวเบิร์คย้ายมาแผ่นดินใหม่ และที่นี่...กำลังจะเปลี่ยนไป
เก้าเดือนต่อมา...
หัวหน้าแห่งเบิร์คเดินไปมาหน้าบ้านตน สีหน้าแสดงความวิตกออกมาอย่างไม่ปกปิด
แอสทริดกำลังคลอด... เขารู้เพียงแค่นั้น
เรื่องมันเกิดขึ้นตอนเช้า และ...สำหรับเขามันเกิดขึ้นเร็วมาก ฮิคคัพตื่นขึ้นมาตามปกติ แอสทริดตื่นก่อนเขาเสมอเขาจึงไม่แปลกใจหากตื่นมาแล้วไม่เจอเธอ เขาเดินออกจากห้องนอน ตั้งใจจะออกไปล้างหน้า แต่ก็สะดุดกับร่างที่คุ้นตานั่งกองอยู่กับพื้น แอสทริดที่นั่งใช้แขนเกาะขอบโต๊ะอาหารในสภาพอ่อนแรง หน้าเธอซีดขาว ฮิคคัพพุ่งไปหาคนตรงหน้าอย่างตกใจ เขาประคองเธอไว้ในอ้อมแขน
“แอสทริด!”
“ฮิคคัพ...” เธอเรียกชื่อเขาเสียงเบา “ข้าเจ็บท้อง”
ฮิคคัพไม่พูดอะไร เขารีบประคองเธอและอุ้มไปที่เตียง เขาวางเธอลงอย่างระมัดระวัง ก่อนจะวิ่งออกไปตามวัลก้าและแม่เฒ่าโกสตี้มาที่บ้าน
และตอนนี้เขาทำได้เพียงรออยู่ข้างนอกเท่านั้น
“นางจะเป็นอะไรมั๊ย” ฮิคคัพถามเมื่อได้ยินเสียงร้องของแอสทริดออกมาจากในบ้าน
“นั้นแอสทริดนะ” สน็อทเลาท์ตอบ หน้าเขาซีดเพราะได้ยินเสียงร้อง “นางไม่เป็นไรหรอก...มั้งนะ”
“สน็อทเลาท์พูดถูก” ฟิชเลกปลอบ เสียงสั่นเขาเองก็กลัวไม่แพ้กัน
แม้จะยังเป็นห่วงแอสทริดกับลูกของเขา แต่คำปลอบของเพื่อนทั้งสองก็ทำให้เขาคล้ายความวิตกอยู่บ้าง “ขอบใจ” ฮิคคัพพูดอย่างแผ่วเบา
ไม่นานนักหลังเสียงร้องของแอสทริดมีเสียงร้องเล็ก ๆ ของทารกดังแทรกขึ้นมา ชายสามคนกระโดดกอดกันด้วยความยินดี สน็อทเลาท์กับฟิชเลกกอดเพื่อนที่ตอนนี้กลายเป็นคุณพ่อแน่น ทั้งคู่น้ำตานองหน้า
ประตูบ้านเปิดออกโดยแม่เฒ่า ชายทั้งสามผละออกจากกันเมื่อรอฟังสิ่งที่เธอจะบอก โกสตี้ยิ้มให้กับคุณพ่อพร้อมทั้งพยักหน้าให้เป็นการแสดงความยินดี ก่อนจะใช้ไม้เท้าขีดเขียนบางอย่างลงบนพื้น
“นายหญิงปลอดภัย ส่วนลูกท่านแข็งแรงดี..” ฟิชเลกอ่านตามที่แม่เฒ่าเขียน ทันทีที่อ่านจบ หัวหน้าแห่งเบิร์คเดินเข้าไปในตัวบ้านอย่างเร่งรีบ เขาเดินตรงไปที่ห้องนอนทันที ใจเต้นแรงขึ้นเมื่อรู้สึกว่าเข้าใกล้เสียงร้องของทารกน้อย
ฮิคคัพค่อย ๆ เปิดประตูห้องนอนออก เขาหายใจหอบเพราะความตื่นเต้น ภาพที่อยู่ตรงหน้าทำให้เขาพูดไม่ออก อยู่ดี ๆ น้ำตาก็เอ่อขึ้นมา ภาพของวัลก้ายืนอุ้มทารกไว้ในอ้อมกอดพลางฮัมเพลง ส่วนแอสทริดนั้นนั่งพิงพนักเตียงมองแม่ของเขากล่อมเด็กน้อยอยู่ สีหน้าเธอดีขึ้นมาก
“ฮิคคัพ” แอสทริดเรียกคนรักเมื่อสังเกตเห็นว่าเขายืนนิ่งอยู่หน้าประตู ฮิคคัพเดินตรงไปเข้าไปโดยไม่พูดไม่จา...เขาพูดไม่ออก
“เจ้าคงอยากเห็นหน้าลูกสาวเจ้า” วัลก้าพูด ขณะที่เขาเดินตรงมาทางเธอ “อยากอุ้มเธอมั๊ย”
“ขะ ข้าอุ้มนางได้หรอ” เขาพูดเสียงสั่น
“ลูกเจ้า” แอสทริดว่า เธอยิ้มกับภาพตรงหน้า ฮิคคัพรับทารกน้อยจากวัลก้ามาอุ้มในอ้อมแขนตนอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ วัลก้าเดินออกไปหลังส่งเด็กน้อยให้พ่อของตน แอสทริดพูดต่อ “ดูสิ นางผมสีเดียวกันเจ้า”
“จริงด้วย..” ฮิคคัพพึมพำ เขายิ้มให้กับเด็กน้อย ก่อนจะเดินมานั่งลงข้าง ๆ แอสทริด
“ตั้งชื่อให้นางสิ” เธอพูด พลางเขยิบให้คนนั่งข้าง ๆ นั่งได้ถนัด
“จะดีหรอ คือข้า...ไม่มั่นใจว่าจะตั้งได้ดีเท่าเจ้า” คุณพ่อมือใหม่พูดอย่างวิตก “แล้ว...ถ้าลูกไม่ชอบ...”
“ฮิคคัพ...เชื่อข้าสิ” แอสทริดพูด เธอยกมือขึ้นแตะแขนเขา “ลูกจะชอบ”
“งั้น...ถ้าเป็น ‘เซเฟอร์’ ล่ะ เจ้าว่าไง” ฮิคคัพถามความเห็นภรรยา ก่อนจะยกมือมาเขี่ยที่แก้มของทารกน้อยที่หลับในอ้อมแขนตนเบา ๆ “เจ้าว่าไงเจ้าหญิงน้อย”
เด็กน้อยยิ้ม...
“ข้าว่านางชอบชื่อที่เจ้าตั้งให้” แอสทริดเสริมเมื่อเห็นเด็กน้อยในอ้อมแขนคนรักยิ้มออกมาราวกับกำลังฝันหวาน
“ลูกเหมือนเจ้าเลย” ฮิคคัพพูดเสียงร่าเมื่อเห็นท่าทางของทารกน้อย
‘ฝันดีเซเฟอร์ เจ้าหญิงน้อยของพ่อ’
(END)
-------------------------------------------------------------------------------------------------
ในที่สุดเย่!!! ครอบครัวสุขสันต์น่ารักที่สุด!!
มีหลายอย่างที่อยากแจ้งในฟิคเรื่องนี้นะคะ
1.เรื่องอาการแพ้ท้องของแอสทริด เราเองก็ไม่รู้จะเขียนออกมาแบบไหนเหมือนกันค่ะ แต่ที่เรียนมาช่วงเดือนสองเดือนแรกนี่ล่ะที่จะแพ้หนัก ๆ ส่วนที่อารมณ์สวิงก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนท้องเค้าสวิงกันขนาดไหน เลยเดาเอาอ่ะค่ะ คิดว่าน่าจะประมาณผู้หญิงตอนเป็นเมนนี่แหละมั้ง มันเลยดูงี่เง่าไปหน่อย
ยังไงก็ขอโทษนะคะถ้าไม่ชอบ
2.ตอนคลอด หนักเลย ...เคยดูคลิปคลอดลูกก็จริง แต่ก็เป็นการแพทย์สมัยใหม่อ่ะค่ะ เลยนึกภาพไม่ออกเลยว่าพวกคนสมัยก่อนหรือพวกไวกิ้งเนี่ย เค้าทำคบอดกันยังไง มันเลยดูตัดๆไปหน่อย ขอโทษอีกทีนะคะ
สุดท้ายก็ขอบคุณมากที่อ่านนะคะ 💕
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น